เที่ยวรัสเซียหน้าหนาว เดินเล่นตลาดคริสต์มาสและเคาท์ดาวน์ปีใหม่
1.ทริปเกือบล่ม...จะทิ้งตั๋วติดดอย
เรามีตั๋ว Aeroflot ติดดอยมาตั้งแต่ช่วงโควิด ได้เป็น E-Voucher มา มีอายุ 3 ปี ซึ่งแรกเริ่มเดิมทีซื้อตรงกับทางเว็บไซต์ของสายการบิน ไม่ผ่านเอเจ้นใดๆ คำถามคือ มี E-Voucher แล้วยังไงต่อนะ ???? ทีแรกหวังว่าหมดช่วงโควิดจะได้ไปเที่ยว แต่มีเรื่องสงครามมาต่อ จะจองตั๋วยังไงในเมื่อรัสเซียโดน sanction จากภาวะสงคราม ไม่สามารถ book ตั๋วแล้วตัดบัตรเครดิตได้ ใกล้วันหมดอายุเข้ามาทุกที ไปถามตัวแทนขายตั๋ว Aeroflot ในประเทศไทย ได้ความว่าให้ไปติดต่อออฟฟิศสายการบินที่สุวรรณภูมิ และได้อีเมลล์มา ก็ส่งเมลล์ไปถาม และนัดวันเข้าไปที่ออฟฟิศ ต้องลางานไปเพราะออฟฟิศเปิดวัน จ-ศ 10:00-16:00 น. โดยเข้าไปก่อน E-Voucher หมดอายุ 2-3 วัน ในที่สุดก็ออกตั๋วสำเร็จ และต้องจ่ายตังค์เพิ่มเกือบเท่ามูลค่าตั๋วเดิม
ในช่วงที่จองตั๋ว เดือนสิงหาคม 2566 เที่ยวบินยังน้อย มี 3 เที่ยวต่อสัปดาห์ และตารางบินออกล่วงหน้าถึงกลางเดือนมกราคม 2024 ทำให้มีตัวเลือกวันเดินทางค่อนข้างน้อย จนมาลงเอยที่วันเดินทางช่วง 28 ธ.ค. 2566 - 5 ม.ค. 2567 ซึ่งราคาตั๋วรับได้กับส่วนต่างที่ต้องจ่ายเพิ่ม ในวันนั้นที่เราเข้าไปติดต่อ ได้ใช้ Voucher ซื้อตั๋วไป-กลับ กรุงเทพฯ-มอสโคว มาก่อน เพราะโปรแกรมเที่ยวยังไม่รู้จะไปกับทัวร์หรือไปเที่ยวเอง
2.กว่าจะได้มาเที่ยว จองที่พัก ยังไง?
หลังจากจองตั๋วสำเร็จ ต้องมาเลือกว่าจะไปกับทัวร์หรือเที่ยวเอง เนื่องจากการจองใดๆ ยังไม่สามารถตัดบัตรเครดิตได้ การเที่ยวเองจะมีความยุ่งยากมาก เลยตัดสินใจหาทัวร์ เพื่อให้เค้าจัดการทุกสิ่งทุกอย่างให้ แต่..แต่...แต่ เราไม่เจอโปรแกรมทัวร์ที่ถูกใจ วันเดินทางที่ทัวร์จัดก็ไม่ตรงกับตั๋วที่เราซื้อ ก็เลยต้องเริ่มหาข้อมูลแบบเที่ยวเอง สำหรับการจองโรงแรม เราจองผ่าน ostrovok.ru (สามารถโหลดแอพลงมือถือไว้ได้) และอีกเว็บไซต์ในเครือเดียวกัน zenhotels.com เราเลือกการจ่ายเงินแบบ pay on spot
แล้วก็มีเรื่องตื่นเต้นเกิดขึ้นก่อนเดินทาง 2 อาทิตย์ โดนเทจากโรงแรมที่มอสโคว (Moscow Marriott Grand Hotel ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น Safmar Grand Moscow) อยู่ดีๆ ก็ cancel booking ไปซะงั้น เราเลยต้องอีเมลล์ไปถาม และขอจ่ายเงินเลยเพื่อการันตีห้องไว้ตามคำแนะนำของแอดมินเพจเที่ยวรัสเซีย โดยแอดมินเพจจะช่วยจ่ายให้เราก่อน แล้วเราโอนคืนเป็นเงินไทย ซึ่งก็ดีใจที่สามารถทำได้ เจ้าหน้าที่ส่งลิ้งก์มาให้จ่ายเงิน ปรากฎว่าราคาห้องดีดไปเป็นแสนรูเบิล คุณแอดมินมาคอนเฟิร์มยอดจ่ายกับเรา เราบอกว่าจองไว้ไม่ใช่ราคานี้ ถูกกว่านี้นะ ....ตลกแล้วจ้า จะฟันค่าห้องช่วงเทศกาลเหรอนี่ จองไว้ตั้งแต่กันยาแค่ประมาณ 35,000 รูเบิล มายกเลิกแล้วให้จองให้ด้วยราคาที่แพงขึ้น ก็เลยขอบ๊าย..บาย Moscow Marriott Grand
งานเข้าสิจ๊ะ...เมื่อต้องหาโรงแรมใหม่ ช่วงที่ไปพักก็พีคด้วย คาบเกี่ยวคืนวันเคาท์ดาวน์ ทำเลก็ต้องใกล้รถไฟฟ้าอีก และโรงแรมต้องมีลิฟท์อีกด้วย วันนั้นไม่เป็นอันทำอะไร หาโรงแรมใหม่ทั้งวัน จนมาเจอ Holiday Inn Moscow Sokolniki ที่ตอบโจทย์ แต่จะจองเว็บไซต์เดิมก็กลัวโดนเทอีก เพราะการเลือกจ่ายแบบ pay on spot ไม่ต้องใช้เลขบัตรเครดิตการันตีการจอง ใกล้วันเดินทางเราเลยต้องรอบคอบ ไปหาเว็บไซต์โรงแรม แล้วจองตรงกับโรงแรมไปเลยจ้า ส่วนโรงแรมที่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ก็อีเมล์ไปคอนเฟิร์มกับโรงแรมโดยตรงเช่นกันว่าเธออย่าเทฉันนะจ๊ะ ถ้าเทฉันอีกโรงแรม ตาเป็นแพนด้าแน่นอน ไม่ต้องหลับต้องนอนกันจนกว่าจะได้โรงแรม
3.เที่ยวรัสเซียช่วงสงคราม...จะปลอดภัยไหม?
เชื่อว่าคำถามนี้อยู่ในใจใครหลายคนที่กำลังหาข้อมูลไปเที่ยวแน่นอน หลังจากไปเที่ยวกลับมา ขอคอนเฟิร์มว่าไปเที่ยวได้คะ สงครามไม่มีผลใดๆ ต่อการเที่ยวในเมืองท่องเที่ยวใหญ่ๆ ที่นิยม มอสโคว เซอร์ปีเตอร์สเบิร์ก หรือมูรมันส์ แต่ที่สำคัญกว่านั้น...ยังต้องระวังภัยจากมิจฉาชีพนะคะ ยังไงรัสเซียก็ขึ้นชื่อเรื่องนี้ (รวมถีงประเทศยุโรปอื่นๆ อย่างฝรั่งเศส หรืออิตาลี) มีโดนล้วงกระเป๋า และมีโดนรื้อกระเป๋าเดินทาง ...แล้วเที่ยวยังไงให้ปลอดภัย เราไปมา 2 รอบ ยังไม่เคยโดนล้วงกระเป๋าหรือรื้อกระเป๋าเดินทาง จากการชอบท่องเที่ยวเราจะหาข้อมูลไปประมาณนึงอยู่แล้วเพื่อจะได้ระวังตัว เราจะไม่ติดของมีค่าไปเที่ยว ไม่พกของแบรนด์เนมมูลค่าสูงๆไปใช้ กระเป๋าจะเลือกใช้ที่สะพายแบบ cross body คาดติดตัวด้านในแล้วใส่เสื้อโค้ทคลุม ไม่แนะนำใช้กระเป๋าเป้สะพายด้านหลัง เพราะเพื่อนเราโดนล้วงกระเป๋ามาแล้วตอนไปเที่ยวด้วยกันรอบแรก ส่วนเรื่องกระเป๋าเดินทางหากไม่มีของมีค่าด้านใน ตอนสแกนที่สนามบินไม่น่าจะเป็นที่เพ็งเล็งของเหล่าโจรอยู่แล้ว แต่ถ้าจำเป็นต้องพกไปเที่ยว ให้เอาติดตัวถือขึ้นเครื่องไปด้วย
4.รัสเซียโดนแบน...ใช้จ่ายบัตรเครดิตไม่ได้
เมื่อไปเที่ยวต้องใช้เงิน มิจฉาชีพเยอะไม่อยากพกเงินสด อยากใช้บัตรเครดิตมากกว่า... แต่รัสเซียโดนแบนใช้จ่ายด้วยบัตรเครดิตไม่ได้ ในเมื่อทางเลือกไม่มี "เงินสด" คือคำตอบค่ะ ไม่เคยไปเที่ยวต่างประเทศแล้วพกเงินสดเยอะขนาดนี้ ความลำบากจึงบังเกิด ต้องเก็บรักษาเงินให้รอดจนจบทริป 555 จริงๆ ไม่ใช่แค่ดูแลเงิน ต้องดูแลพาสปอร์ตและใบ immigration ด้วย
สำหรับการแลกเงินรูเบิล แลกได้ที่ซุปเปอร์ริชสีส้มกับสีเขียว โดยต้องจองเงินล่วงหน้า แล้วนัดวันไปรับเงินที่สาขาของเค้า สะดวกสาขาไหนแจ้งได้เลย เราแลกกับร้านส้มได้มาแต่แบงค์ใหญ่ แบงค์ 5 พัน การใช้เงินที่รัสเซียเลยมีปัญหาเรื่องทอนเงิน ร้านค้าไม่มีเงินทอน เพราะคนรัสเซียส่วนใหญ่ก็ใช้ cashless กันแล้ว ในส่วนของการจองใดๆ เราให้เพจเที่ยวรัสเซียช่วยจองให้หมด ทั้งตั๋วเข้าวังและละครสัตว์
5.อินเตอร์เน็ตสำคัญกว่าการพูดอังกฤษได้ -_-
อินเตอร์เน็ตสำคัญมากจริงๆ สำหรับการเที่ยวเอง อย่างเรื่องคนรัสเซียไม่พูดภาษาอังกฤษ ถึงคุณจะพูดได้แต่ไม่มีใครพูดด้วย โปรแกรมแปลภาษาและภาษามือเท่านั้นที่จะช่วยในการสื่อสาร ไม่ว่าจะการสั่งอาหาร การซื้อของ การสอบถามใดๆ จะใช้เวลานานกว่าการพูดคุยปกติเพราะต้องผ่านโปรแกรมแปลภาษา กว่าจะคุยกันรู้เรื่อง สื่อสารกันเข้าใจ ใช้เวลาจริงๆ คะ นอกจากนี้ แอพสำคัญที่ควรโหลดไว้ก็มี Yandex Metro, Yandex Map, Yandex Translate หรือ Google Translate, และ Yandex Go (ไว้เรียกแท็กซี่ ต้องลงทะเบียนด้วยซิมรัสเซีย) สำหรับโซเชียลต่างๆ Facebook, IG, X, Line เล่นไม่ได้นะคะ ถ้าใช้ซิมรัสเซียต้องต่อ VPN ฉะนั้นต้องโหลดแอพไว้ต่อ VPN ด้วย แต่ถ้าเปิดโรมมิ่งจากไทยมาก็เล่นโซเชียลได้ปกติ
6.เตรียมตัวไปหนาว ก็ได้สัมผัสอากาศหนาวเหมือนอยู่ในตู้แช่แข็ง
เป็นปกติที่เราจะเช็คสภาพอากาศเพื่อจะได้จัดเสื้อผ้าถูก จากพยากรณ์อากาศล่วงหน้าอุณหภูมิติดลบเลขตัวเดียวสำหรับที่มอสโคว และติดลบถึง 10 ต้นๆ ที่เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก วันที่เดินทางไปถึง 28 ธันวา อากาศ -4 องศา หลังจากนั้นในแต่ละวันอุณหภูมิต่ำลงทุกวันๆ ดูจากพยากรณ์อากาศแล้วเสื้อผ้าที่เอามาไม่น่าไหว เราต้องซื้ออุปกรณ์กันหนาวเพิ่ม แล้วพอวันที่ 4 มกรา คือพีคมาก หนาวสุดในชีวิตที่เคยเจอ -29 องศา feel like -37 องศา น้ำมูกไหลทุกวัน ไหนจะหนาวแล้ว บางวันหิมะตก บางวันแถมฝนตกมาด้วย จมูกแดง น้ำมูกไหลตลอด และน้ำมูกมีเลือดด้วย สงสัยหนาวจัดจนเส้นเลือดฝอยในจมูกแตก
ความหนาวสะท้านเป็นอุปสรรคต่อการเที่ยวไหม? บอกเลยว่าเป็น อยากจะเดินชิลเที่ยวชมเมือง แวะร้านต่างๆ ตามข้างทางไปเรื่อยๆ ไม่สามารถทำได้ เราออกมาเดิน outdoor ได้ไม่นาน 10-15 นาที ต้องหาที่อุ่นๆอยู่ เดินเข้าร้านไปหลบหนาว อยากจะนั่งในร้านกาแฟ ร้านขนมนานๆ ก็หาโต๊ะยาก เพราะคนเยอะมาก แบบโต๊ะเต็มต้องรอคิว สุดท้ายต้องไปเดินห้างเสียตังค์ช้อปปิ้งอีก
7.ค่าครองชีพถูก กินหรูอยู่สบาย ช้อปปิ้งมันส์
เที่ยวรัสเซียรอบนี้เราจองโรงแรมแบบไม่รวมอาหารเช้า เพราะมื้อเช้าเราไม่ทานหนัก แค่ขนมปังกับกาแฟก็อยู่ได้แล้ว มื้อหนักจะเป็นกลางวันกับมื้อเย็น บางวันข้ามมื้อเช้าไปก็มี เราลิสต์ร้านที่อยากไปกินไว้ประมาณ 4-5 ร้าน ไปทานสำเร็จแค่ร้านเดียวคือ Wine & Crab ร้านที่เหลือแต้มบุญยังไม่พอ ร้านปิดบ้าง โต๊ะเต็มบ้าง ฉะนั้นการจองโต๊ะคือสิ่งจำเป็นสำหรับร้านอาหารใหญ่ๆ ดีๆ เช่น White Rabbit และ Cafe Pushkin เป็นต้น เมื่อแต้มบุญไม่มี ก็ไม่เป็นไร เรากับเพื่อนก็ walkin ร้านอื่นๆ อ่านรีวิวจาก Yandex Map ค้นหาร้านอาหารแล้วปักหมุดเลย ในการเที่ยว 1 วัน เราจะเลือกทานร้านดีๆ 1 ร้าน แบบ Fine Dining ที่มีสั่ง Soup, Salad, Main Course และของหวาน ตกราคาต่อหัว 400-500 บาท เราว่าไม่แพง เทียบกับที่ไทยทานแบบนี้มีแบงค์พันปลิวแน่นอน ในส่วนของโรงแรมเราเลือกพัก 4 ดาว (Holiday Inn Sokolniki Moscow, Akyan Hotel St.Petersburg) ทำเลใกล้รถไฟฟ้า และมีลิฟท์ ราคาต่อคนต่อคืน 1,700 บาท จองล่วงหน้า 4 เดือนก่อนเดินทาง
สำหรับสายช้อปปิ้ง ไม่ผิดหวังแน่นอน ช่วง Christmas Sale ลดเยอะมาก ลดตั้งแต่ 30-70% เรานี่ขนาดไม่ได้เตรียมไปช้อป ยังได้มาเพียบ เสื้อกันหนาวยี่ห้อดังๆ ราคาไม่แพง ลดราคาแบบว่า...ไม่ซื้อไม่ได้แล้ว ช้อปจนล้มละลาย เงินตัวเองหมดต้องไปยืมเงินเพื่อน 555 จนวันหลังๆ ต้องเพลาๆลง นอกจากเงินจะใกล้หมด น้ำหนักกระเป๋าจะเกินกำหนดอีกด้วย
8."Winter Season" บรรยากาศดีเกินคาด สวยสะกด...ดั่งเทพนิยาย
ครั้งก่อนที่มา เรามาช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ฟิลเมืองจะสดใสด้วยสีสันของใบไม้สีเหลืองสีส้ม ส่วนรอบนี้ให้ฟิลที่แตกต่าง ต้นไม้ใบร่วงหมดเหลือแต่กิ่งก้านสีน้ำตาลที่มีหิมะเกาะ มองไปทางไหนก็ขาวโพน หิมะตกฉ่ำๆ มีกองหิมะหนาๆฟูๆ อยู่ตามพื้นถนน บวกกับไฟที่ประดับตกแต่งอยู่ทั่วเมือง ไปที่ไหนก็เจอต้นคริสต์มาสแทบทุกที่ ให้ฟิล Festive มาก ยิ่งเข้าไปโซนเขตพระราชวังเหมือนหลุดมาอยู่เทพนิยาย นี่ถ้าได้ใส่ชุดกระโปรงพองๆบานๆ จะเหมือนตัวเองเป็นเจ้าหญิงในวังเลย
9.วันสิ้นปี วันปีใหม่ ควรทำอะไร...ไปไหนดีนะ?
31 ธันวาคม..วันสิ้นปี ที่มอสโคว แพลนวันนี้เราจะไปเก็บตกที่วังเครมลินช่วงเช้า เข้าใจกว่าช่วงบ่ายพวกวังหรือโบสถ์จะปิดกัน เนื่องจากเตรียมกิจกรรมเคาท์ดาวน์ที่จตุรัสแดงช่วงเย็น เราตื่นแต่เช้าตรู่ แวะไปเก็บภาพสวยๆ แถวโรงละคร Boishoi ก่อน เพราะเครมลินเปิด 10 โมงเช้า พอถ่ายรูปเสร็จ...สงสัยแต้มบุญหมด มีทหารและตำรวจมากั้น ปิดทางเข้าบริเวณจตุรัสแดง ทางที่จะเดินไปเครมลิน ทำให้ไม่สามารถฝ่าเข้าไปได้ จบเห่... แล้วทหารตำรวจยังคงปิดทางเดินอย่างต่อเนื่อง มองมาไกลๆ กำลังจะปิดทางลง metro เรานี่รีบวิ่งเลย ต้องออกไปจากจุดนี้ให้ได้ สุดท้ายลง metro ที่สถานี Okhotny Ryad มีห้างอยู่ใต้ดิน ตัดสินใจเดินช้อปปิ้ง และทานมื้อเที่ยงที่นี่เลย ช้อปปิ้งเสร็จไปเก็บของที่โรงแรม แล้วไปต่อที่ Space Museum (The Museum of Cosmonautics) ขึ้นจาก metro ที่สถานี VDNKh คนมหาศาล มีทหารและตำรวจอีกแล้วจ้า แล้วความหวังจะท่องพิพิธภัณฑ์ก็จบลง พิพิธภัณฑ์ปิด! เลยขอคุณตำรวจเข้าไปถ่ายรูปมากรุบกริบ แล้วเราก็เดินตามมวลชนเข้าไปใน VDNKh Park มีคอนเสิร์ต มีแสงสีอลังการ เดินเล่นเพลินเลย
ปกติที่เราทราบข้อมูลมาจุดเคาท์ดาวน์ที่มอสโคว คนจะไปรวมตัวที่ Red Square ส่วนที่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์กจะรวมตัวที่ Palace Square การได้มาเที่ยวครั้งนี้ ทำให้รู้ว่า "VDNKh Park เป็นจุดรวมของผู้คน ที่ไปเคาท์ดาวน์ในคืน New Year's Eve มีปูตินมาพูด มีจุดพลุ อันนี้เราดูจากคลิปนะถึงรู้ เราอยู่ไม่ถึงตอนเคาท์ดาวน์เพราะหนาวมากกก 555"
1 มกราคม...วันปีใหม่ ที่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เราบินมาลงช่วงเที่ยง ระหว่างนั่งรถเข้าเมือง บรรยากาศเมืองเงียบเหงาดีจัง ร้านริมทางเหมือนจะปิดด้วย สงสัยจะได้เข้าห้างอีกแล้วไง สอบถามไปทางเพจเที่ยวรัสเซีย บอกว่าส่วนใหญ่จะหยุดร้านกัน พวกวังและพิพิธภัณฑ์ก็ปิด เปิดอีกทีก็วันที่ 2 มกราคม นะจ๊ะ ไปหาอะไรกินในห้างน่าจะสะดวกสุด ฉะนั้น...เข้าห้างสิจ๊ะ เราไปห้าง Galeria ที่เค้าว่ากันว่า ห้างนี้มีครบ...จบที่ห้างเดียว ดีที่เราจัดโปรแกรมมาแบบยืดหยุ่น มีเวลาที่นี่ 4 วัน สามารถสลับแพลนได้แบบไม่ต้องตัดอะไรออกไป แค่ต้องบริหารเวลาไปให้ครบก็พอ
สำหรับใครที่อยากมา countdown และตรงกับช่วงวันปีใหม่แบบนี้ แนะนำให้จัดโปรแกรม 31 ธันวา - 1 มกรา เป็น Free Day ไปเลย ถือเป็นวันพักผ่อน รีชาร์จตัวเองอย่างแท้จริง ใช้ชีวิตอย่างช้าๆ (slow life) เดินเล่นดื่มด่ำบรรยากาศเมืองแบบชิลๆ อยากช้อป..ช้อป อยากกิน...กิน เข้าห้างคือจบจริง ส่วนร้านดังๆ ในวันพีคๆแบบนี้ แนะนำโทรเช็คและจองโต๊ะล่วงหน้า ไม่งั้นอดแน่นอน