ทริปแรกของปี 2566 ขึ้นเหนือไปรับลมหนาวกันซะหน่อย ไหนๆ ก็ยังไม่ได้ไปเที่ยวเมืองนอก คิดว่าทริปนี้เราจะได้เอาเสื้อหนาวออกมาใช้บ้าง มาลุ้นกันว่าจะหนาวซักกี่องศากัน จะเลขตัวเดียวมั๊ย หรือจะแค่สิบกว่าๆ สมาชิกทริปนี้มี 4 คน พวกเราเดินทางช่วงวันที่ 13-15 มกราคม 2566 การเดินทางไปเชียงรายครั้งนี้ เราใช้ไมล์แลกตั๋วเครื่องบิน ไปกับสายการบินที่รักคุณเท่าฟ้า แต่ราคาเหมือนคนเกลียดกัน 555 ทริปนี้หลักๆ แล้วเราไปทำ workshop เกี่ยวกับกาแฟที่ Leehu Coffer Farm กิจกรรมจะอยู่แต่ในไร่ มีไปดูพระอาทิตย์ตกที่ดอยช้างในวันที่ 2 เป็นกิจกรรมเดียวที่ได้ออกนอกไร่ คิดไปคิดมาจะไปแค่ทำ workshop อย่างเดียวก็ดูจะไม่คุ้ม ไหนๆ ก็ขึ้นไปเชียงรายแล้วและเป็นครั้งแรกของเราสองพี่น้อง อยากไปเที่ยวที่อื่นๆ ด้วย เลยเลือกเที่ยวบินเช้าสุดสำหรับขาไปและเที่ยวบินดึกสำหรับขากลับ โดยจะแวะเที่ยวก่อนเข้าไร่กาแฟและหลังเสร็จจาก workshop
แพคเกจ workshop ราคาอยู่ที่ 4900 บาทต่อคน สำหรับ 3 วัน 2 คืน ในราคานี้รวมที่พัก 2 คืน อาหารเย็น 2 มื้อ อาหารกลางวัน 1 มื้อ และกิจกรรมต่างๆของ workshop พร้อมรถรับส่งจาก Leehu Cafe ในตัวเมืองเชียงรายมาที่ฟาร์ม กิจกรรมของ workshop ในแต่ละวันมีดังนี้ วันที่ 1 ทำความรู้จักกับสายพันธุ์ของต้นเชอร์รี่ เก็บเชอร์รี่ และฟาร์มทัวร์ วันที่ 2 เรียนรู้กระบวนแปรรูปจากเม็ดเชอรี่สู่เมล็ดกาแฟ การคั่วกาแฟ พาชมพระอาทิตย์ตกที่ดอยช้าง วันที่ 3 สอนทำพิซซ่า จบกิจกรรมแล้วจะได้กาแฟกลับบ้านคนละถุง อย่างที่บอกว่าพวกเราอยากแวะเที่ยวก่อนเข้าฟาร์ม เลยไม่ได้ใช้บริการรถรับส่งของฟาร์ม เราจองรถพร้อมคนขับไว้วันละ 2500 บาท ราคานี้รวมค่าน้ำมันแล้ว พอเที่ยวเสร็จก็ให้รถไปส่งที่ฟาร์มก่อนบ่ายสาม
หลังเท้าเหยียบสนามบินก็ออกเดินทางไปที่พิพิธภัณฑ์บ้านดำของอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินแห่งชาติ มาค่ะได้เวลาเสพงานศิลปะกันแล้ว เรือนไม้สีดำที่อยู่ด้านหน้าสวยงามมากทีเดียว ด้านในมีภาพเขียน รูปปั้นไม้แกะสลัก ของหายากหลายอย่างเช่น หนังจระเข้ ผ่านเรือนไม้หลังแรก เดินเข้ามาก็เจอเรือนไม้อีกหลายหลัง กว้างขวางพอสมควร เดินชมจนเหนื่อยแล้วก็แวะทานไอศครีมเพิ่มพลังกันได้ มีรสชาร์โคลด้วยเข้ากับคอนเซ็ปของสถานที่
![]() |
ข้าวซอย มีทั้งไก่น่องและไก่ฉีก |
ปอเปี๊ยะทอด |
หมูทอดพื้นเมือง |
หลังจากทานอาหารเสร็จก็ไปวัดทำบุญกันค่ะ ที่หมายคือวัดห้วยปลากั้ง ในบริเวณวัดแบ่งออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ๆ อาคารทรงคล้ายเก๋งจีน รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมที่อยู่บนเนินเขา และอาคารที่เป็นโบสถ์ ตรงรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมจะเดินขึ้นบันไดเองก็ได้ หรือจะใช้บริการรถรับส่งก็ได้ ด้านบนตัวรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมนั้นมีจุดชมวิว สามารถขึ้นลิฟท์ไปชมวิวด้านบนโดยเสียค่าเข้าชม 20 บาท ด้านบนตกแต่งด้วยรูปปั้นแกะสลักสีขาว ด้วยความที่ทุกสิ่งขาวไปหมด เรารู้สึกเหมือนอยู่บนสวรรค์ยังไงยังงั้นเลย